สลีปปิ้งมาส์ก เป็นสิ่งหนึ่งที่สาว ๆ อย่างเราต้องทาเป็นประจำทุกวัน ทั้งมลภาวะทางอากาศ ฝุ่น แสงแดด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ใบหน้าของเราโทรมลงได้ นี่จึงเป็นตัวช่วยหลักในการกู้ผิวหน้าจากหน้าโทรมให้กลับมาหน้าใสอีกครั้ง ดังนั้นเราจึงต้องรู้จักและทำความเข้าใจถึงวิธีการใช้ ให้เหมาะสมกับสภาพผิว รวมถึงเรียนรู้ประโยชน์และคุณสมบัติต่าง ๆ ไปด้วยกัน
สลีปปิ้งมาส์ก คืออะไร
สลีปปิ้งมาส์ก คือ มาส์กที่มีเนื้อสัมผัสเป็นเนื้อเจลหรือเนื้อครีม ที่มีคุณสมบัติช่วยกู้ผิวหน้า เติมความชุ่มชื่นด้วยการเติมน้ำให้ผิวอย่างเร่งด่วนภายในเวลาข้ามคืนด้วยการทาทิ้งไว้ทั้งคืนโดยไม่ต้องล้างออก แต่ในปัจจุบันนั้นแบรนด์สกินแคร์ต่าง ๆ ได้เริ่มพัฒนาสูตรใหม่ขึ้นมามากมาย
โดยเพิ่มคุณสมบัติให้กับตัวครีมนี้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ให้กับปัญหาผิวในหลาย ๆ ประเภท เช่น ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับใบหน้า ช่วยลดริ้วรอยจุดด่างดำต่าง ๆ จนกระทั่งช่วยลดสิวอุดตัน และด้วยความที่ตัวครีมช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาสดใส เปล่งปลั่งได้ในชั่วข้ามคืนนั้น ในส่วนผสมของจึงมีความเข้มข้นที่มากกว่าครีมบำรุงผิวทั่วไปหลายเท่า
ไนท์ครีมกับสลีปปิ้งมาส์กใช้แทนกันได้หรือไม่
ในการบำรุงผิวนั้นมีหลายขั้นตอน ทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืน แต่การที่จะบำรุงให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด และได้ผลลัพธ์แบบที่เราพอใจนั้น จะต้องเริ่มต้นจากการเข้าใจในประเภทของสกินแคร์ก่อน และหนึ่งในสกินแคร์ที่ใครหลาย ๆ คนงงมาก ว่าต่างกันอย่างไร หรือสามารถใช้แทนกันได้รึเปล่า ก็คือ Night Cream เราจึงต้องมาทำความเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ช่วยเรื่องอะไร แตกต่างและมีความเหมือนกันอย่างไร? ในหัวข้อนี้มีรายละเอียดอ่านได้ที่นี่เลย
Night Cream
เป็นสกินแคร์ที่ส่วนใหญ่คู่มากับ Day Cream ที่ทาในช่วงเช้า ส่วนครีมกลางคืนอย่าง Nigh Cream เอาไว้ทาในช่วงตอนกลางคืน ซึ่งเป็นตัวหลักในการบำรุงขั้นตอนสุดท้ายที่มีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวในยามกลางคืน มีความเข้มข้นกว่า Day Moisturizer ในสูตรเดียวกัน จึงไม่เหมาะกับใช้ตอนกลางวัน เพราะอาจเกิดการอุดตันได้ง่าย
Sleeping Mask
เป็นตัวเสริมการบำรุงให้กับผิวหน้าในแต่ละวัน และที่สำคัญยังเป็นตัวบูสผิวได้ลึกถึงชั้นผิว ดังนั้นจึงมีความเข้มข้นในที่สูงมาก ในบางแบรนด์อาจเทียบได้กับการมาส์กหน้าถึง 10 แผ่นกับการทาแค่ครั้งเดียว สกินแคร์ออกแบบมาเพื่อการบำรุงผิวหน้าอย่างเร่งด่วน จากสาเหตุที่เจอในชีวิตประจำวัน เช่น การที่ผิวหน้าเผชิญแสงแดดจ้า เจอฝุ่นมลภาวะสะสมทางอากาศ หรือที่การแต่งหน้าไม่ติดทนก็มีสาเหตุมาจากการกล่าวถึงข้างต้น สกินแคร์ตัวนี้จึงมักมีส่วนผสมที่ทำให้บำรุงลึกถึงชั้นผิวมากกว่าตัวครีมทั่วไป ซึ่งเป็นตัวคอยเสริมให้ผิวได้รับการผ่อนคลาย โดยที่ไม่ต้องล้างออก
ดังนั้นหน้าที่การบำรุงจึงต่างกันตัว Night Cream ได้ออกแบบมาเพื่อคู่กับ Day Cream เป็นส่วนใหญ่ ใช้ได้ในทุกวันหลังจากที่ล้างหน้าเสร็จ และตัวไนท์ครีมนั้นมักจะเลือกใช้ตามประเภทผิวของแต่ละบุคคล เน้นความชุ่มชื้นเป็นหลัก ส่วนอีกหนึ่งสกินแคร์นั้นสามารถใช้บำรุงหลังทา Night Cream เพื่อเพิ่มการบำรุงให้กับผิวหน้า เป็นครีมหน้ากระจ่างใส ช่วยบูสผิวให้กลับมาดูชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง หน้าไม่โทรม โดยที่ไม่ต้องล้างออก แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบทา Skin Care หลาย ๆ สเต็ปก็สามารถทาแทนตัวไนท์ครีมได้
วิธีใช้สลีปปิ้งมาส์ก
เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนอาจจะกำลังสงสัยว่าผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ใช้ทุกวันได้ไหม ซึ่งจริง ๆ แล้วสกินแคร์จะมีความเข้มข้นมากว่าครีมตัวอื่นจึงแนะนำให้ใช้ 2-3 วันต่อสัปดาห์ เป็นไอเทมเสริมเพิ่มการบำรุงให้ผิวหน้ากระชับ กระจ่างใสชั่วข้ามคืน หลังจากการล้างหน้าเสร็จ ให้ทาสกินแคร์ตัวนี้เป็นสเต็ปสุดท้าย โดยมีวิธีการใช้ดังนี้
- ตักเนื้อครีมพอประมาณ ให้ปริมาณพอดีกับใบหน้า แล้วค่อย ๆ แต้มลงไปบนปลายจมูก แก้ม หน้าผากและคาง
- หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ใช้นิ้วหรืออุปกรณ์เกลี่ยเนื้อครีมให้ทั่วใบหน้าอย่างเบามือ ซึ่งหลักการเกลี่ยครีมที่ถูกต้อง จะต้องเกลี่ยครีมออกทางด้านข้าง
- ขั้นตอนสุดท้าย ปล่อยให้เนื้อครีมซึมลงผิวหน้า ด้วยการทิ้งไว้ข้ามคืนโดยที่ไม่ต้องล้างออกได้เลย แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานของครีมมาส์กหน้าตอนกลางคืนด้วยว่าระบุเช่นใด ให้อ้างอิงจากข้อมูลแต่ละสินค้าเป็นหลัก
วิธีการเลือกสลีปปิ้งมาส์กให้เหมาะสมกับผิว
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ นอกจากจะมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นเป็นหลักแล้ว ยังจะต้องดูถึงส่วนผสมอื่น ๆ ประกอบด้วย คือการคำนึงถึงสภาพผิวของตัวเราเองนั้นมีปัญหาด้านไหน สภาพผิวหน้าเป็นอย่างไร เช่น ผิวแห้ง ผิวมัน เป็นสิวอักเสบ รอยสิวต่าง ๆ ควรเลือกใช้ตัวครีมที่เน้นคุณสมบัติไปทางให้ความชุ่มชื้นหรือไม่ โดยแต่ละแบรนด์มักบรรจุอยู่ในรูปแบบของกระปุก เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาที่ทำบรรจุแบบซอง เพื่อให้พกพาง่ายขึ้น โดยมีวิธีการเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวดังนี้
- ผิวแห้งขาดความชุ่มชื่น : สูตรที่ควรเลือกคือมาส์กที่มีส่วนผสมของอาหารผิว จะทำให้มีความชุ่มชื้นกับผิวเพราะเป็นสารอาหารที่ผิวต้องการ เช่น สารสกัดจากว่านหางจระเข้เติมความชุ่มชื้น เมือกหอยทากหรือคอลลาเจนทำให้หน้าดูเปล่งปลั่ง แต่ถ้าหากสภาพผิวเป็นผิวที่ขาดน้ำให้หามาส์กสูตรที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก
- ผิวบอบบางแพ้ง่าย : ควรเลือกมาส์กสูตรที่เป็นแบบออร์แกนิคมีความอ่อนโยนต่อผิวหรือเลือกสูตรที่ไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำหอม เพราะการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมเหล่านี้จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองน้อยลง และถ้าหากมีส่วนผสมที่สามารถปลอบประโลมผิวได้ก็จะป้องกันให้ผิวไม่ให้เกิดอาการคันหรือระคายเคือง
- ผิวที่มีปัญหาจุดด่างดำและผิวหน้าหมองคล้ำ : ปัญหารอยสิวเป็นปัญหาหนักที่ผู้หญิงทุกคนกังวลมากที่สุด เพราะเป็นปัญหาที่แก้ไขยาก ผู้ที่มีปัญหาผิวจุดด่างดำควรเลือกมาส์กที่มีสูตรเน้นในเรื่องผิวขาวกระจ่างใส ที่ส่วนมากมักจะมีพวกวิตามินใส่เข้ามาให้ในมาส์กด้วย โดยเน้นส่วนผสมของวิตามินซีเพราะวิตามินวีจะช่วยปรับให้สีผิวมีความกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำและทำให้หน้าดูไม่โทรม
- ผิวมีริ้วรอย : ควรเลือกมาส์กที่เน้นไปในทางให้ความชุ่มชื้นและเน้นเรื่องการทำให้เซลล์ผิวของเรามีความแข็งแรง เพราะมาส์กสูตรนี้มีส่วนผสมที่ช่วยให้ลดเลือนริ้วรอย เข้าไปทำงานได้อย่างล้ำลึกถึงเซลล์ผิวได้อย่างดี และอาจจะเลือกมาส์กที่มีคอลลาเจนหรือเรตินอลเพื่อปรับปรุงปัญหาริ้วรอยเสริมคอลลาเจนให้กับผิวได้อีกด้วย
- ผิวมีปัญหาสิว : การเป็นสิวบ่งบอกถึงสภาพผิวหน้าที่อ่อนแอ ดังนั้น สลีปปิ้งมาส์ก สำหรับคนเป็นสิว จึงควรเลือกตัวครีมที่มีเนื้อสัมผัสไม่เข้มข้นมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหน้าเกิดการอุดตัน สูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิวมีปัญหาสิวก็คือมาส์กที่มีส่วนผสมของ BHA / AHA ที่สามารถช่วยกำจัดความมันส่วนเกินซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว
สุดท้าย หากต้องการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึกถึงเซลล์ต่าง ๆ ใต้ผิวหนัง แต่ไม่มีเวลาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวครบทุกปัญหา แนะนำเลือกมาส์กหน้าตอนกลางคืน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในหนึ่งซอง ประกอบด้วยสารสกัดที่เป็นอาหารผิวมากมาย ไม่ต้องยุ่งยากเลือกทาครีมหลายตัว แค่มาส์กหน้าตอนกลางคืนแก้ไขได้ครบทุกปัญหาผิวหน้าแน่นอน หากใครกำลังมองมาร์สหน้าดีใช้ดีเราขอแนะนำบทความ 10 อันดับมาร์คหน้าที่ดีที่สุด
อ้างอิง
- Sleeping Mask กู้หน้าโทรม ตื่นมาหน้าเด้ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2022. https://bestreview.asia/best-sleeping-mask/