ต้านมะเร็ง วิธีกินเห็ดหลินจือให้เกิดประโยชน์ที่สุด ปลอดภัย 100%
เห็ดหลินจือ ต้านมะเร็ง วิธีกินเห็ดหลินจือให้เกิดประโยชน์ที่สุด ปลอดภัย 100% หลินจือราชาสมุนไพรต้านโรคมะเร็ง 13 คำถามคาใจ ที่ผู้ป่วยมะเร็งหลายๆท่านคิดว่ามันช่วยได้จริงเหรอ มันช่วยแบบไหนกัน เพื่อนๆหลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อของเห็ดชนิดนี้มาบางแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าประโยชน์มากมายเหล่านี้ คืออะไรบ้าง
วันนี้เพื่อนๆมารู้จักกับต้นกำเนิดของเห็ดหลินจือ พร้อมสรรพคุณ และวิธีกินเห็ดหลินจือไปพร้อมๆกันนะค่ะ เพื่อเป็นประโยชน์กับสุขภาพของผู้ป่วยโรคมะเร็งมากที่สุด — เห็ดหลินจือ
• เห็ดหลินจือ คืออะไร ?
เห็ดหลินจือคือ ยาสมุนไพรจีนที่ได้จัดอยู่ในวงศ์ GANODERMATACEAE มีชื่อสามัญเรียกกันว่า Lingzhi mushroom หรือบางที่ก็เรียกว่า Reishi mushroom
เห็ดหลินจือคือยาสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคภัยต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งได้มีความโดดเด่นที่สุดคือ ในเรื่องของการต่อสู้กับโรค เพราะมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานช่วยบำรุงส่วนต่างๆ ของร่างกายให้เกิดสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นได้
• เห็ดหลินจือ มีลักษณะอย่างไร ?
เห็ดหลินจือมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากเห็ดอื่นๆ อันได้แก่
- เส้นใย เห็ดหลินจือ มีลักษณะเป็นสีขาวละเอียด มีขนาดเล็ก เกิดขึ้นจำนวนมากโดยเรียงตัวกันอย่างหนาแน่น เมื่อโตเต็มที่จะเกิดลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ ยื่นออกไป แล้วพัฒนาเป็นดอกเห็ดในอนาคต
- ดอกเห็ด ของเห็ดหลินจือ เราจะแยกออกมาด้วยกันอยู่ 2 แบบ ก็คือ ดอกเดี่ยว และแบบที่เป็นดอกกลุ่ม มีส่วนประกอบของหมวก พร้อมกันกับก้าน หมวกจะมีลักษณะเป็นทรงกลม หรือบางครั้งจะแผ่ออกคล้ายพัด ดอกแก่มีลักษณะงุ้มลงบริเวณหมวกดอก มีสีน้ำตาลอมแดง หรือสีน้ำตาล ในส่วนของดอกอ่อนมีสีขาว เนื้อเห็ดมีลักษณะแข็งเป็นสีขาว ผิวมีความมันออกเงาๆ บริเวณด้านล่างคล้ายฟองน้ำจะมีรูเล็กๆออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่มีคลอโรฟิลล์ จึงทำให้ไม่สามารถสังเคราะห์แสงเอง
- สปอร์ ของเห็ดหลินจือ ตั้งอยู่บริเวณใต้หมวกของดอก ซึ่งสปอร์จะอยู่ภายในรูเล็กๆ อาศัยเพศในการขยายพันธุ์ สปอร์มีสีน้ำตาล มีลักษณะรี แต่หากว่าไม่สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ก็สามารถทำโดยการหักเส้นใย เพื่อให้บริเวณที่ถูกหักจะเติบโตเป็นเห็ดดอกใหม่ขึ้นมา
- ก้านดอก ของเห็ดหลินจือ มีขนาดสั้น ซึ่งบางดอกอาจไม่มีก้านเลยก็เป็นไปได้ มีหน้าที่ช่วยลำเลียงสารอาหาร และยังมีส่วนช่วยพยุงหมวกดอก มีสีน้ำตาลดำ หรือน้ำตาลเข้มค่ะ
- ฐานดอก ของเห็ดหลินจือ มีลักษณะแผ่กว้างออกมาเพียงเล็กน้อย เป็นจุดศูนย์รวมของเส้นใย
• เห็ดหลินจือมาจากเมืองจีน
เห็ดหลินจือสมุนไพรจีน เห็ดหลินจือ เป็นสมุนไพรยาจีนชั้นสูง ที่มีมากมายกว่า 100 สายพันธุ์ ชาวจีนนิยมนำมาทานเพื่อบำรุงสุขภาพร่างกายให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่สุดของเห็ดหลินจือ คือสายพันเห็ดหลินจือแดง ในประเทศจีนได้ถูกใช้เป็นยามานานมากกว่า 2,000 ปีแล้ว
ทำให้ เห็ดหลินจือแดง ได้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สมุนไพรจักรพรรดิ เพราะว่าถูกยกย่องว่าเป็นสุดยอดของเห็ด เป็นสุดยอดแห่งสมุนไพรจีน อันดับ 1 และได้ถูกบันทึกในคัมภีร์ของจีนที่มีชื่อว่า “เสินหนงเปินเฉ่า”
ในเห็ดหลินจือ มีสารประกอบต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์มากมายกว่า 250 ชนิด และมีสาระสำคัญประกอบไว้อย่าง พอลิแซ็กคาไรด์ ที่มีส่วนช่วยยับยั้ง และรักษาอาการต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เห็ดหลินจือ มีหลายชนิดมาก ซึ่งในแต่ละชนิดก็มีสารพอลิแซ็กคาไรด์ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไปค่ะ
• เห็ดหลินจือ มีสารประกอบอะไรบ้าง
– โพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) มีส่วนช่วยในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง ช่วยให้ร่างกายของมนุษย์เกิดความสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงไต ฟื้นฟูสุขภาพ มีอยู่มากมายกว่า 200 ชนิด
– เจอร์มาเนียม (Germanium) มีส่วนช่วยในการต่อต้านมะเร็ง ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตทำงานดีมากขึ้น เพิ่มออกซิเจนในเลือด ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย ขจัดสารพิษ ต่อต้านมะเร็ง มีส่วนช่วยเพิ่มการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย พบอยู่มากในดอกและราก
– ไตรเทอร์ปินอยด์ (Triterpenoids ) สารตัวนี้มีหลายชนิดเช่น กรดกาโนเดอริค และกรดลูซิเดนิก ซึ่งทั้งหมดพบในเห็ดหลินจือ ช่วยบำรุงร่างกาย และเด่นในเรื่องฟื้นฟูตับเป็นพิเศษ จึงมีการนำมาใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับตับ เช่น ตับแข็ง ตับอักเสบ
– นิวคลีโอไทด์ (Nucleotides) ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินเลือด และมีส่วนช่วยให้หัวใจมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน หรือช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ดีมากยิ่งขึ้น
– เออร์โกสเตอรอล (Ergosterol) มีส่วนช่วยให้กระดูก และฟันเกิดความแข็งแรง
• เห็ดหลินจือ สรรพคุณเด่น กับงานวิจัยทางการแพทย์ มีอะไรบ้าง
เห็ดหลินจือสรรพคุณ ถูกใช้เป็นยามาเป็นระยะเวลามากมาย วันนี้องค์กรทางการแพทย์หลากหลายสาขา ได้นำเห็ดหลินจือมาวิจัยเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน
ทำให้เกิดการพบว่าในเห็ดหลินจือนั้นมีสาระสำคัญอยู่หลายอย่าง ที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อร่างกายร่างกายของมนุษย์ และที่โดดเด่นมากที่สุดก็คือสารที่ช่วยต้านมะเร็ง และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง
คือ สารพอลิแซ็กคาไรด์ที่พบในเห็ดหลินจือ ข่าวดีคือได้ถูกวิจับพบว่าเหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทยในบ้านเราเป็นอย่างมาก สามารถนำเห็ดหลินจือมาเพาะปลูกได้จนเกิดเป็นอาชีพขึ้นมากมาย สร้างรายได้ ให้เกษตรกร และเกิดเป็นเห็ดหลินจือในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาขึ้นมาด้วย
• เห็ดหลินจือ ในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา
เห็ดหลินจือโครงการหลวง โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เกิดขึ้นจากสายพระเนตรอันยาวไกลของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้รับรู้ว่าเห็ดหลินจือเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์อันมหาศาล แต่ว่ามีราคาแพงมากๆ เพราะต้องทำการสั่งเห็ดหลินจือจากประเทศจีน จึงได้ทำการก่อตั้งการเพาะปลูกเห็ดหลินจือขึ้นในปี พ.ศ. 2531
เป็นการเพาะเลี้ยงเห็ดหลินจือกันอยู่ 2 สายพันธุ์ สายพันธุ์ G9 สายพันธุ์ G2 (Ganoderma Lucidum 2) จากนั้นได้มีการนำเอาเห็ดหินจือมาแปรรูปเป็นอาหารเสริมเพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน เช่น เห็ดหลินจือสกัดบรรจุแคปซูล, น้ำเห็ดหลินจือ , เม็ดอมเห็ดหลินจือ , เห็ดหลินจือผงชงดื่ม , และอาหารเสริมเห็ดหลินจืออีกมากมาย ทำให้มีการตอบรับจากภาคประชาชนที่ดีมากๆค่ะ
• ประโยชน์ของเห็ดหลินจือ
- ประโยชน์ของเห็ดหลินจือ ขับปัสสาวะ
- รักษาโรคเกาต์
- บำรุงสุขภาพไต
- รักษาโรคลมบ้าหมู
- แก้อาการอาหารเป็นพิษ
- รักษาโรคริดสีดวงทวาร
- แก้ปัญหาภาวะมีบุตรยาก
- บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
- ปรับระดับ และช่วยลดไขมันในเลือด
- มีส่วนช่วยรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
- ช่วยแก้อาการหูอื้อเมื่อเดินทางขึ้นที่สูง
- รักษาแผลในลำไส้ และกระเพาะอาหาร
- ลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ตามข้อ
- ป้องกันการเสื่อมสรรถภาพทางเพศเสื่อม
- ลดอาการโรคภูมิแพ้ต่างๆ เช่น โรคหอบหืด
- บำรุงตับและรักษาโรคตับ ตับอักเสบ ตับแข็ง
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมอาการเบาหวาน
- ช่วยกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวสร้างสารต่อต้านมะเร็ง
- ผิวพรรณให้สดใส ผิวกระจ่างใสเกิดความเปล่งปลั่ง
- รักษาโรคหมอนรองกระดูกแตกกดทับที่เส้นประสาท
- แก้พิษรังสีคีโม ลดอาการท้องเสียอักเสบจากการฉายรังสี
- บำรุงสายตา และมีส่วนช่วยรักษาอาการทางสายตาเบื้องต้น
- ยับยั้ง ไวรัสเอดส์ งูสวัดโรคลูปัส อีสุกอีใส อีริทีมาโตซัสทั่วร่าง
- รักษาสมดุล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ให้ดีขึ้น
- รักษาโรคที่เกิดจากร่างกายขาดออกซิเจนต่างๆเช่น ถุงลมโป่งพอง เส้นเลือดหัวใจตีบ
- ผ่อนคลายระบบประสาท ทำให้มีส่วนช่วยในการจำ เสริมสร้างกล้ามเนื้อ รักษาโรคประสาท
- บำรุงกล้ามเนื้อของหัวใจให้เกิดความแข็งแรงขึ้น มีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจอุดตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต
- เห็ดหลินจือช่วยบำรุงร่างกายเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันทำให้เกิดความแข็งแรงทำให้อายุยืนยาว ชะลอความแก่ หรือช่วยชะลอวัย
- บำรุงการทำงานของระบบการไหลเวียนของเลือด มีส่วนช่วยรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ลดความดันโลหิตปรับความดันโลหิตให้เกิดความสมดุล
• เห็ดหลินจือ ข้อแนะนำในการรับประทาน
การทานเห็ดหลินจือ ควรกินเห็ดหลินจือในขณะท้องว่างแล้วให้ดื่มน้ำตามมาก ๆ หรือจะทานควบคู่กับวิตามินซีได้ยิ่งดี เพื่อให้ช่วยเพิ่มคุณสมบัติของเห็ดหลินจือค่ะ ส่วนใหญ่นิยมกินเห็ดหลินจือในรูปแบบผงชงดื่ม หรือแคปซูล ที่ถูกสกัดมาแล้วเพราะว่าช่วยให้ร่างกายสามารถดูดสารต่างๆได้ดี และยังกินง่าย รวดเร็ว
คำแนะนำผู้ที่ไม่ควรกินเห็ดหลินจือคือ ผู้ป่วยโรค SLE , ผู้ที่กินยากดภูมิต้านทาน และคนที่ผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ
เห็ดหลินจือเหมาะกับผู้สูงอายุมากที่สุด และยังเหมาะกับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ในการทานครั้งแรกแนะนำให้ทานในปริมาณน้อย เพราะร่างกายต้องเกิดการปรับตัว อาจทำให้เกิดอาการ มึนหัว และปวดตัว นั่นเพราะเห็ดหลินจือกำลังขับสารพิษต่างๆ ออกไปจากร่างกายค่ะ
- ผู้ที่เป็นโรคไตอาจปวดเมื่อยตามข้อ
- คนที่เป็นโรคเบาหวานอาจจะเกิดการขับปัสสาวะบ่อยครั้ง
- ผู้ที่ที่เป็นโรคเกาต์อาจมีอาการเจ็บปวดมากขึ้นแต่จะดีขึ้นในระยะยาว
*** ซึ่งอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะทำให้สุขภาพดีในภายหลัง เพราะว่าร่างกายกำลังปรับสมดุล และกำลังฟื้นตัวค่ะ
• เห็ดหลินจือ อาหารเสริมผลิตภัณฑ์แปรรูป
เห็ดหลินจือ อาหารเสริมเห็ดหลินจือมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบผงชงดื่ม เห็ดหลินจืออบแห้ง เห็นหลินจือสกัด และอีกมากมาย
การนำเห็ดหลินจือมาต้มแบบโบราณแต่จะเสียเวลาในแต่ละขั้นตอน , การนำมาบดเป็นผงบรรจุแคปซูลก็อาจมีเชื้อราปนเปื้อนมา เนื่องจากไม่ผ่านฆ่าเชื้อ และร่างกายดูดซึมได้ยาก ทำให้การสกัดเป็นแคปซูลได้รับความนิยม และเป็นประโยชน์ต่อผู้รับประทานเห็ดหลินจือมากที่สุดค่ะ
- เห็ดหลินจืออบแห้ง มักจำหน่ายเป็นดอกๆ หรือในบางครั้งอาจผลิตออกมาเป็นผง ซึ่งเราสามารถนำมาชงได้ง่ายๆเลยค่ะ
- เห็ดหลินจือสกัด ผลิตภัณฑ์บำรุงร่างกาย มักออกมาในรูปแบบของ ชา น้ำเห็ดหลินจือ หรือสกัดมาเป็นแคปซูลแบบเฉพาะ
• การเลือกซื้อเห็ดหลินจือ
วิธีในการเลือกซื้อเห็ดหลินจือนั้น ควรเลือกจากคุณภาพ เพราะในท้องตลาดตอนนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้มีผู้ผลิตออกมาจำหน่ายหลายยี่ห้อ ทำให้แต่ละเจ้าก็มีคุณภาพแตกต่างกันไป
ในวิธีเลือกซื้อเห็ดหลินจือนั้น เราควรเลือกที่บรรจุภัณฑ์ ความสด ใหม่ ของสินค้า และความน่าเชื่อถือค่ะ
• วิธีกินเห็ดหลินจือ
1. วิธีกินเห็ดหลินจือ ให้นำดอกเห็ดหลินจือมาฝานเป็นแผ่นบาง ๆ ประมาณสัก 2-3 ชิ้น
2. ทำการต้มในน้ำดื่มที่สะอาดจนเดือดนานประมาณ 10-15 นาที
3. ดื่มแทนน้ำได้ตลอดเวลา
เห็ดหลินจือมีฤทธิ์ช่วยให้คืนความสดชื่น เสริมสร้างภูมิต้านทานต่างๆ วิธีกินเห็ดหลินจือที่ดีที่สุดควรกินทันทีตอนท้องว่าง เพราะจะทำให้ออกฤทธิ์ได้ดีที่สุด ดื่มทันทีที่ตื่นนอน หรือทันทีก่อนนอนได้ยิ่งดีค่ะ
• เห็ดหลินจือ มีผลข้างเคียงไหม ?
เห็ดหลินจือ มีผลข้างเคียงไหม ? แม้ว่ายังไม่มีผลงานการวิจัยในด้านของผลข้างเคียงใดๆ จากการทานเห็ดหลินจือ แต่ผู้ป่วยที่ต้องทานยาประจำในการรักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการทานเห็ดหินจือ เพื่อช่วยในการรักษา เพราะตัวหลินจือมีสารกำมะถันทองแดง และยังมีสเตียรอยด์แบบธรรมชาติ ทำให้อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงในบางผู้ใช้
เช่น อาเจียน คลื่นไส้ หรือในบางรายอาจมีอาการแพ้เห็ด อาการแพ้เห็ดคือ ปากแห้ง คอแห้ง เลือดกำเดาไหล ปวดท้อง ปวดหัว หากได้ลองแล้วพบอาการเช่นนี้ไม่ควรทานเห็ดหลินจือต่อไปค่ะ
• เห็ดหลินจือ ผู้ที่ไม่ควรทาน !
1. สตรีมีครรภ์ คุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเห็นหลินจือ หรือ งด!!
2. ผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หรือเลือดออกผิดปกติ นั่นก็เพราะว่าเห็ดหลินจือมีส่วนช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ส่งผลให้มีเลือดออกได้ง่าย จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีสภาวะเลือดดังกล่าว
3. ผู้ป่วยที่กำลังจะผ่าตัด ควรพักผ่อนต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป เพราะว่าในช่วงนี้ร่างกายกำลังพักฟื้นอาจส่งผลให้เลือดออกได้ง่ายมากกว่าปกติ
4. ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิต้านเนื้อเยื่อของตนเอง เช่น เอสแอลอี , โรคลูปัส , โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง เพราะเห็ดหลินจือช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ผู้ป่วยเหล่านี้มีภูมิต้านทานที่เยอะมากเกิดไปอยู่แล้ว จึงไม่ควรได้รับ
5. ผู้ป่วยที่ต้องรับยากดภูมิคุ้มกัน ไม่ควรกินเห็ดหลินจือ เพราะฤทธิ์ของเห็ดหลินจือจะไปหักล้าง ขัดขวางการทำงานฤทธิ์ของยากดภูมิคุ้มกันค่ะ
สรรพคุณและประโยชน์มากมายจากเห็ดหลินจือ ถ้าเรารับประทานให้เป็น ศึกษา เพื่อรับรู้ถึงรายละเอียดข้อดีและข้อเสียจนครบทั้งหมด จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆแน่นอน เพราะว่าการไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ จะทำให้สุขภาพร่างกาย และจิตใจมีความสุขมากที่สุดแล้ว