สร้างแบรนด์อาหารเสริมลงทุนเท่าไหร่ ? เปิดทุกขั้นตอนสร้างแบรนด์
จุดที่ทุกคนหวังเอาไว้ ก็คือ ความสำเร็จในชีวิต แน่นอนว่ามันคือความฝันที่ใครหลายคนตั้งเป้าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการประสบความสำเร็จในเรื่องการเรียน การงาน แต่งงาน หรือ แม้กระทั่งการสร้างครอบครัว ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จในชีวิตทั้งหมด แต่สำหรับวันนี้พวกเราจะขอพูดถึงคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง กับ การสร้างแบรนด์อาหารเสริม ที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก อีกทั้งแนวโน้มในอนาคตเชื่อเลยว่าจะเป็นเรื่องที่ดี ได้รับความนิยม เพราะคนไทยส่วนใหญ่ หันมารักษาสุขภาพกันมากขึ้น เนื่องจากโรคระบาด COVID-19 ในช่วงก่อนหน้านี้ อาหารเสริมชนิดต่าง ๆ มียอดขายที่ดีขึ้นมาก แน่นอนว่าวันนี้พวกเราจะมาแนะนำทุกขั้นตอนเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของแบรนด์ กับคำถามที่มีหลายคนถามว่า สร้างแบรนด์อาหารเสริมลงทุนเท่าไหร่ ? ทุกคำตอบที่คุณอยากรู้ อยู่ที่นี่เรียบร้อยแล้ว
สร้างแบรนด์อาหารเสริมลงทุนเท่าไหร่
การสร้างแบรนด์อาหารเสริม ก็เหมือนกับ การสร้างธุรกิจอื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งจะต้องเริ่มต้นด้วย “เงินทุน” ที่มากพอจะจัดตั้ง รวมทั้ง ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณนั้นผ่านมาตรฐานทั้งการยื่นเอกสารกับรัฐบาล อีกทั้งการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายวิธี ทั้งทางตรง ทางอ้อม โดยพวกเราได้รวบรวมข้อมูลสำหรับการเปิดแบรนด์เป็นของตัวเองเอาไว้ที่นี่แล้ว บอกเลยว่าละเอียดยิบ ตอบทุกข้อสงสัยของคุณได้อย่างแน่นอน กับ 3 ส่วนของเงินทุนที่จะถูกแบ่งออกไปมีดังนี้
เงินทุน 3 ส่วน สำหรับสร้างแบรนด์ และ ลงทุน
1.เงินทุน ในการผลิต “อาหารเสริม”
“อาหารเสริม” หรือ ธุรกิจอื่น ๆทั่วไป คุณเองจะต้องมีเงินทุนที่จะจัดตั้งมากพอสมควร ส่วนจะลงทุนเท่าไหร่นั้น ถ้าคุณได้อ่านทั้งหมด จะเข้าใจ และ สามารถบริหารธุรกิจของตัวเองได้อย่างมั่นใจ โดยการคำนวณเงินทุนจะเริ่มได้จากการแยกชนิดของอาหารเสริมที่เราจะขาย โดยมีหมวดหมู่ดังนี้
- ชนิดเม็ด 30,000 เม็ด
- แคปซูล 30,000 ยูนิต
- ผงชมดื่ม 30,000 ซอง
- ชนิดน้ำ 10,000 ขวด
จากการสรุปโดยรวมแล้ว ผู้ลงทุนก็ควรที่จะเตรียมเงินมาลงทุนอาหารเสริมไม่ให้น้อยกว่า 1 แสนบาทขึ้นไป หรือ จะมากกว่า-น้อยกว่านี้ ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่น ๆ ของการลงทุนด้วย
2. เงินทุน ในส่วนงาน “การดำเนินการ”
ทุกขึ้นตอนของธุรกิจ หรือ การค้าขาย จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาด้วยเสมอ ดังนั้นแล้ว มีข้อคิดเล็ก ๆ ได้บอกเอาไว้ว่า ถ้าคุณอยากได้ แต่ไม่อยากเหนื่อย ก็แค่ซื้อ หรือ จ้าง โดยมีตัวอย่างดังต่อไปนี้
- ค่าวิจัย และ พัฒนาสูตร
- การออกแบบ ผลิตบรรจุภัณฑ์ กล่อง โลโก้ แบรนด์
- ค่าขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
- ค่าจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
- ค่าบรรจุตัวยา
โดยจากการคำนวณแล้ว เงินทุนในส่วนนี้ก็ไม่ควรที่จะต่ำกว่า 1 แสนบาท ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะขาดทุนเป็นอย่างมาก สำหรับรายละเอียดทั้งหมด 5 ข้อนี้ ธุรกิจของผู้อ่าน จะต้องมีเพื่อเป็นมาตรฐานในการสร้างแบรนด์นั่นเอง เป็นค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และ ไม่ควรที่จะพลาดเลยทีเดียว
3. ใช้เงินทุน ลงทุน “การตลาด”
การตลาด คือ หัวใจหลักของการขาย ถ้าการตลาดไม่ดี ไม่มีเทคนิค พลิกแพลงใด ๆ ก็ไม่สามารถที่จะขายได้ตรงตามเป้าหมาย หรือ กลุ่มเป้าหมายอีกด้วย โดยจะมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดดังต่อไปนี้
- จัดทำสื่อสิ่งพิมพ์
- สื่อส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น ใบโปรชัวร์ โปสเตอร์ ป้ายไวนิล
- การประชาสัมพันธ์
- การส่งเสริมการตลาด
- การออกแบบโฆษณา
- การทำสื่อออนไลน์ต่าง ๆ
สำหรับการทำการตลาด คุณเองก็จะต้องมีงบประมาณไม่น้อยกว่าเงินทุน ที่ใช้ผลิตอาหารในวันนี้ ก็จะอยู่ในระดับเงินทุนตลาดกลางคือ 300,000 บาท ไปจนถึง 400,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากพอสมควรสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจ ซึ่งนี่แหละคือความใฝ่ฝันของคุณทุกคน แต่การเป็นเจ้าของแบรนด์นั้น ก็จะต้องมีความคิดของนักการตลาดแทรกเข้าไปด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วคุณเองก็จะมองหาวิธีการ หรือ ช่องทางในการขายไม่ได้นั่นเอง
อยากเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมต้องเริ่มอย่างไร
อีกหนึ่งคำถามที่เป็นหัวข้อใหญ่ ๆ เลยก็คือ ถ้าอยากจะเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม จะต้องเริ่มต้นอย่างไร ? ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราได้รวบรวมวิธีสร้างแบรนด์อาหารเสริมที่เป็นคำตอบของเรื่องนี้มาด้วยกันถึง 7 ข้อ ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.ต้องเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่เราจะขาย
เริ่มต้น สิ่งที่เราจะขาย หรือ เราต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์ จะต้องเลือกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งแบ่งให้ชัดเจนเลยว่า จะเลือกกลุ่มคนอายุเท่าไหร่ เพศไหน ซึ่งความหลากหลายทางช่วงอายุก็จะแบ่งออกเป็น
- วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ที่มีอายุตั้งแต่ 18-25 ปี
- วัยทำงาน หรือ ทั่วไป ที่มีอายุตั้งแต่ 26 ปี – 35 ปี หรือ อาจจะมีต่ำกว่า 26 ปี ก็เป็นไปได้
- วัยผู้มีอายุ จะเป็นวัยที่อยู่ในช่วงอายุ 36-60 ปี ขึ้นไป
- หรือจะ เจาะจงเป็นเพศ ชาย หญิง LGBTQ+
- ผู้ที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้อาหารเสริมเฉพาะด้าน
โดยส่วนใหญ่แล้ว การเริ่มต้นเลือกเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน จะทำให้คุณผลิตสินค้าออกมาขายได้ตรงตามเป้าหมายมากขึ้น อีกทั้งเป็นเรื่องที่คุณจะต้องวิเคราะห์เป็นอันดับแรกเลยทีเดียว ในการสร้างแบรนด์ของตัวเอง หรือ พูดง่าย ๆ ก็คือ “คุณผลิตมา จะขายให้ใคร?”
2. ต้องพัฒนา สูตรเฉพาะตัว ที่แตกต่าง
แน่นอนเลยว่าแบรนด์อาหารเสริมนั้น มีมากมายหลายแบรนด์ หลายประเภท สิ่งที่เราจะต้องทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่จุดจำของลูกค้า นั่นก็คือ สร้างจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ นั่นเอง โดยการให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคนั้นมีสูง เราอาจจะใช้ผลการรับรองจากวิทยาศาสตร์ หรือ ทางการแพทย์อ้างอิง จะเป็นอีกส่วนที่จะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ของเราได้เป็นอย่างดี ดังนั้นต้องหาความแตกต่าง และสูตรเฉพาะตัวที่เป็นจุดเด่นให้ได้ เช่น “วิตามินบี จากผักผลไม้สด” หรือ “ไฟเบอร์จากสาหร่ายวากาเมะ” เป็นต้น
3. แบรนด์ของเรา ต้องมีแพคเกจจิ้งที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์
ขั้นตอนที่สำคัญเลยทีเดียวสำหรับตรงนี้ เพราะลูกค้า จะต้องจดจำ รวมทั้งมีเครดิต ผ่านทางหีบห่อ หรือ แพคเกจจิ้ง ที่จะสร้างบุคลิกให้กับสินค้าด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นแล้ว แบรนด์ของเราก็จะต้องเลือกใช้ภาษาที่ทำให้กลุ่มลูกค้าที่เราเลือกในข้อ 1 นั้น เข้าใจได้ง่ายว่า อาหารเสริมของเราจะช่วยอะไรได้บ้าง และ มีจุดยืนอย่างไร มีผลดีต่อสุขภาพต่างจากที่อื่นยังไง และที่สำคัญ จะต้องยึดเรื่องความถูกต้อง คุณภาพ และ ความปลอดภัยต่อผู้บริโภคมาเป็นอันดับ 1 ด้วย
4.Partner ผลิตแบรนด์อาหารเสริม กับ ศักยภาพที่ดี
เรื่องนี้บอกเลยว่าจะต้องคำนึงให้ดี เพราะในปัจจุบันนี้มีโรงงานมากมายที่รับผลิตอาหารเสริม มีทั้งแบบได้รับมาตรฐาน และ ไม่ผ่านมาตรฐาน แต่แน่นอนว่าการเป็นผู้ประกอบการที่ดี ก็จะต้องเน้นไปในทางที่ดีด้วย ดังนั้นแล้วการหา Partner ที่จะเข้ามาช่วยเราผลิตอาหารเสริม จะต้องมีการเปรียบเทียบให้ดี เลือกโรงงานรับผลิตอาหารเสริมที่เหมาะสม มีการสรุปรายละเอียด สูตรอาหารเสริม รวมทั้งการออกแบบโลโก้ กล่อง หรือ บรรจุภัณฑ์ ที่เข้ากับผลิตภัณฑ์ของเราด้วย ดังนั้นแล้ว โรงงานที่เป็น “พาทเนอร์” กับคุณ ก็จะต้องมีการขึ้นทะเบียน อ.ย. รวมทั้งมีการทำบัญชี สต็อกสินค้าได้ พร้อมทั้งแนะนำข้อมูลทางการตลาดให้เราได้อีกด้วย
5.ช่องทางการจัดจำหน่าย
การจำหน่ายสินค้าที่ผลิต ในปัจจุบันมีหลากหลายช่องทางมาก จากเดิมที่เคยขายแบบ ออฟไลน์ ก็เปลี่ยนมาเป็น การขายแบบออนไลน์ได้ การนอนอยู่บ้าน หรือ การช้อปได้ทุกที่ เป็นเรื่องที่ตอบโจทย์มากกับผู้บริโภค รวมทั้งผู้ประกอบการ ที่จะได้ลดต้นทุนในส่วนนี้ไปอย่างถาวรเลยก็ว่า อีกทั้งยังมี Facebook Twitter Instagram Line และ แพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง TikTok ที่จะช่วยสร้างคอนเทนต์ให้กับคุณได้ตลอดเวลา ซึ่งช่องทางเหล่านี้คุณเองก็สามารถเริ่มทำได้ง่าย ๆ และ ได้ผลดีมากกว่าในอดีตด้วยซ้ำไป
6.กลยุทธ์ ทางการตลาดที่ต้องมี
การสร้างแบรนด์ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าถึงลูกค้าได้ภายในเวลาอันสั้น ดังนั้นแล้วต้องใช้เวลา รวมทั้งต้องวางกลยุทธ์กันแบบยาว ๆ ซึ่งในปัจจุบันอย่างที่ทราบกันดีว่า มีการขายทั้งแบบ Online และ Offline ทำให้ช่องทางการขายมีมาก อีกทั้งยังสามารถวางแผนขาย มีการรีวิวทันทีผ่านเว็บไซต์ หรือ แพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ ทำให้เราที่เป็นเจ้าของกิจการ สามารถรับรู้ความคิดเห็นของลูกค้าได้ทันที แน่นอนว่ายิ่งปรับปรุงเร็ว มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้สร้างเครดิตในการซื้อขายมากแค่นั้น และ นี่คือช่องทางที่ผู้ประกอบการจะต้องหาทุกวิธีให้ธุรกิจของคุณอยู่รอด
7.มีตัวแทนจำหน่าย เพื่อกระจายสินค้า
ข้อสุดท้ายถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำ สำหรับผู้ที่คิดจะเป็นผู้ประกอบการอาหารเสริม เพราะว่ายิ่งมีตัวแทนกระจายสินค้าไปมากเท่าไหร่ ผู้คนก็จะยิ่งรู้จักมากเท่านั้น อีกทั้ง ถ้าทำเป็นระบบตัวแทนจำหน่ายที่ดี มีช่องทางการจำหน่ายที่ชัดเจน มีเงินค่าคอมมิชชั่นสูง หรือ โบนัสต่อปี ก็จะยิ่งทำให้มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศมากขึ้น ซึ่งในอนาคตก็สามารถส่งไปขายยังต่างประเทศได้อีกด้วย
แนะนำหมวดอาหารเสริมยอดนิยม น่าลงทุน
สำหรับหมวดของอาหารเสริมที่กำลังได้รับความนิยม รวมทั้ง น่าลงทุนนั้น ได้มีมากมายหลายประเภทเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริมที่จะช่วยเรื่องการบำรุงสุขภาพ เพื่อความงาม ทางการแพทย์ รวมทั้ง การออกกำลังกาย เป็นต้น ดังนั้นแล้วจากกระแสในปัจจุบัน หมวดอาหารเสริมยอดนิยม พวกเราได้จัดกลุ่มมาถึง 4 อันดับด้วยกัน ซึ่งจะมีดังต่อไปนี้
4 อาหารเสริมยอดนิยม น่าลงทุน
อันดับที่ 4 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทางการแพทย์
ทำไมถึงจัดอันดับให้ อาหารเสริมทางการแพทย์นั้น อยู่อันดับสุดท้ายของ อาหารเสริมที่ได้รับความนิยม ก็เพราะว่า ถ้าพูดตามตรงนั้น อาหารเสริมประเภทนี้ จะอยู่ในช่วงกลุ่มคนสูงอายุสูงวัยซะส่วนใหญ่ อีกทั้งคนเฉพาะกลุ่มที่รักสุขภาพมาก ๆ โดยอาจเจาะจงเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคเฉพาะทางด้วยนั่นเอง ซึ่งจะได้แก่อาหารเสริมดังนี้
- อาหารเสริมลดไขมันในเลือด
- อาหารเสริมบำรุงตับ
- อาหารเสริมบำรุงข้อเข่า
- อาหารเสริมบำรุงเลือด
- อาหารเสริมที่ช่วยให้นอนหลับ
โดยในประเภทอาหารเสริมต่าง ๆ ที่กล่าวไปข้างต้น อาจจะใช้ได้เฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคเฉพาะทางเท่านั้น คนธรรมดา หรือ ไม่ได้รับอาการเจ็บป่วย ก็สามารถทานได้ แต่มักจะไม่เห็นผลอะไรมากนัก ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มสุดท้ายเลยที่ลงทุนอาหารเสริมหมวดนี้อาจจะไม่ได้เห็นกำไรที่เยอะมากนัก
อันดับที่ 3 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมการออกกำลังกาย
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เกี่ยวกับการออกกำลังกายนั้น จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพ ฟื้นฟูความแข็งแรง เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย หรือ ลดน้ำหนัก แน่นอนว่าจะเป็นการตอบโจทย์เฉพาะกลุ่มนี้เท่านั้น จึงถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 3 แต่ทว่าก็เป็นอีกหนึ่งประเภทที่น่าลงทุนอยู่เหมือนกัน แต่จะต้องหากลุ่มในการขายที่แน่นอน เพื่อกำไรของแบรนด์คุณ โดยมีประเภทของอาหารเสริมจะมีดังต่อไปนี้
- อาหารเสริมเพิ่มน้ำหนัก
- อาหารเสริมลดน้ำหนัก
- อาหารเสริมเวย์โปรตีน
โดยปกติแล้ว อาหารเสริมจำพวกนี้ จะต้องใช้ในการเสริมน้ำหนัก ลดน้ำหนัก ตามเป้าหมายของการออกกำลังกาย รวมไปถึงการเพิ่มกล้ามเนื้อที่นักเล่นกล้ามต้องการ
อันดับที่ 2 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ
ปัจจุบันคนไทยหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น มีการเลือกทานอาหารที่มีความสำคัญต่อสุขภาพมากขึ้น ทำให้การเลือกที่จะสร้างแบรนด์อาหารเสริมที่เกี่ยวกับการบำรุงสุขภาพนั้น เป็นอาหารเสริมที่สามารถทานได้ทุกเพศ ทุกวัย เพื่อบำรุงสุขภาพ ดังนั้นจึงเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจผลิตขาย และ น่าลงทุนด้วย ซึ่งมีด้วยกัน 7 ประเภท
- อาหารเสริมบำรุงสมอง
- อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน
- อาหารเสริมเพิ่มความสูง
- อาหารเสริมผู้ชาย
- อาหารเสริมบำรุงร่างกาย
- อาหารเสริมผู้สูงอายุ
- อาหารเสริมบำรุงสายตา
โดยช่วงอายุจะเริ่มตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ไปจนถึงสูงอายุ ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่จะขายนั้น มีความหลากหลายมากขึ้น อีกทั้งกระแสความรักสุขภาพมาแรงเป็นอย่างมาก ทำให้น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าลงทุนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
อันดับที่ 1 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อความงาม
ขอยกให้เป็นอันดับที่ 1 เลยสำหรับ อาหารเสริมเพื่อความงาม เพราะมีรูปแบบที่หลากหลายเป็นอย่างมาก ซึ่งตอบโจทย์คนที่รักสวยรักงาม ทุกเพศ รวมไปถึงคนวัยทำงาน ไปจนถึงวัยมีอายุ ที่ต้องการกลับมาสวยงามเหมือนวัยรุ่น ทั้งเรื่องของผิวกาย ผิวหน้า เส้นผม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญภายนอก ที่ทำให้กลายเป็นอาหารเสริมที่น่าลงทุนเป็นอันดับ 1 โดยมีทั้งหมด 4 ประเภท ที่ได้รับความนิยม นั่นก็คือ
- อาหารเสริมลดสิว
- อาหารเสริมเพิ่มผิวขาว
- อาหารเสริมบำรุงเส้นผม
- อาหารเสริมลดฝ้า
โดยแต่ละประเภท ก็จะมีหลากหลายแบรนด์ที่ทำการผลิต จัดจำหน่ายอย่างแพร่หลาย แต่ความเสี่ยงก็มีมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อาหารเสริมเพื่อเพิ่มความงาม ยังทำรายได้ดีมาตลอดเป็นอันดับ 1 เพราะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
การเป็นผู้ประกอบการ หรือ เจ้าของแบรนด์ อย่างที่ได้อ่านข้อมูลทั้งหมดของบทความนี้ มีรายละเอียดที่ค่อนข้างเยอะมากกว่านี้ เพราะแต่ละเรื่องจะต้องมีแผนการดำเนินการ รวมทั้งการกระทำอย่างรอบคอบ มีการหาข้อมูล เปรียบเทียบข้อมูลเยอะ มากกว่าที่เห็นในบทความนี้ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับเงินทุน หรือ งบประมาณ ก็ต้องมีการเตรียมเอาไว้ก้อนใหญ่อยู่เหมือนกันสำหรับการเริ่มต้น แต่เน้นเรื่องการค่อยเป็นค่อยไป กับ การวางแผนที่ดี จะช่วยให้คุณเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมที่ดีได้เช่นกัน ส่วนหมวดหมู่ของอาหารเสริม อย่างที่พวกเราได้จัดอันดับให้แล้ว ก็จะต้องหากลุ่มตลาดเป้าหมายให้ดี ศึกษาข้อมูลสินค้าที่จะขายให้แน่น เพื่อตอบปัญหากับลูกค้า รวมทั้งการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์แบรนด์ตัวเองให้ราบรื่นด้วย และทั้งหมดนี่ก็คือ การเปิดทุกขั้นตอนสู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ กับ คำตอบของ สร้างแบรนด์อาหารเสริมลงทุนเท่าไหร่ ?
Credit:
ทำแบรนด์อาหารเสริมใช้เงินทุนเท่าไหร่ | เงินทุน 3 ด้านที่ผู้ประกอบการต้องเตรียม – Taokaemai.com
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม คืออะไร ? รวมทุกอย่างที่คุณต้องรู้ 2022 (naturebiotec.com)