10 อันดับ วิตามินบํารุงผมยี่ห้อไหนดี ? ลดผมร่วง เสริมความแข็งแรงให้กับผม
ปัญหาผมร่วง ขาดง่าย ผมไร้น้ำหนัก หรือขาดความเงางาม เรียกได้ว่าเป็นปัญหาหนักใจไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับใครหลาย ๆ คน ซึ่งปัPหาเหล่านี้สามารถเกิดได้ทุกช่วงวันไม่ว่าจะช่วงอายุใดก็ตาม บทความนี้เลยเราเลยอยากพาทุกคนมาเจาะลึกถึงสาเหตุผมร่วงเกิดจากอะไร วิธีป้องกันและดูแลให้ผมให้แข็งแรงอยู่เสม รวมไปถึงแนะนำ 10 อันดับ วิตามินบํารุงผมยี่ห้อไหนดี ? ลดผมร่วง เสริมความแข็งแรงให้กับผม
บทความนี้มีอะไรบ้าง
- สาเหตุผมร่วงเกิดจากอะไร
- 5 วิธีป้องกันผมร่วง และดูแลให้ผมให้แข็งแรงอยู่เสมอ
- 10 อันดับวิตามินบํารุงผม ยี่ห้อไหนดี ? ลดผมร่วง เสริมความแข็งแรงให้กับผม
สาเหตุผมร่วงเกิดจากอะไร
อย่างที่เรากล่าไปข้างต้นแล้วว่าปัญหาผมร่วงเป็นปัญหาที่พบได้ทุกช่วงวัยไม่ว่าคุณจะอายุมากหรือน้อย ซึ่งปัญหานี้มักมาพร้อมกับปัญหากวนใจอื่น ๆ ด้วยอาทิ ผมแห้ง ไร้น้ำหนัก ผมเปราะบาง แตกหักง่าย ผมขาด หลุดร่วงง่าย เป้นต้น โดยสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาผมร่วงนั้นเกิดได้หลายปัจจัยดังนี้
1.ขาดสารอาหาร
เรื่องอาหารการกินเป็นเป็จนอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลกระทบทั่วร่างกาย ดังนั้นการรับประทานอาหารไม่ประโยชน์ ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วจนขาดสารอาหาร หรือ รับประทานไม่ครบสารอาหาร โดยเฉพาะ โปรตีน ธาตุเหล็ก คอลลาเจน หรือไบโอติน เป็นต้น ก็ส่งผลกระทบต่อไปถึงสุขภาพเส้นผม ทำให้ผมไม่แข็งแรง จนขาดและหลุดร่วงได้ง่าย
2.ใช้สารเคมีแรง ๆ บนเส้นผม
ขึ้นชื่อว่าสารเคมีแน่นอนว่าต้องมีผลทำร้ายเส้นผมอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการทำสี การดัด ยืด จัดทรงต่าง ๆ ที่มีความร้อนและสารเคมีเป็นส่วนผสม ซึ่งนอกจากทำร้ายเส้นผมแล้วยังทำร้ายหนังศีรษะด้วย หากทำติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็จะมำให้ผมและหนังศีรษะอ่อนแอ จนผมร่วงเกิดปัญหาผมบางหรือหัวล้านในที่สุด
3.เป็นโรคหรือรับประทานยาบางชนิด
โรคบางโรคก็ส่งผลให้ผมร่วงได้ เช่น โรคลูปัสบางชนิด โรคที่เกียวกับต่อมไทรอยด์ หรือการติดเชื้อบนหนังศีรษะ เป็นต้น การรับประทานยารักษาบางชนิดเองก็ทำให้ผมร่วงได้เช่นกันเช่นยาคุมกำเนิด ยาฆ่าเชื้อ หรือยารักษาสิว เป็นต้น
4.ปัญหาความเครียดสะสม
เมื่อเครียดมาก ๆ หรือมีภาวะเครียดสะสมเป้นเวลานาน ๆ จะทำให้รากผมเข้าสู่ระยะพักตัวทำให้ขาดหลุดร่วงง่าย และถ้าหากเครียดรุณแรงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าโจมตีรูขุมขน ทำให้ผมร่วง นอกจากนี้ภาวะตึงเครียดยังระตุ้นให้คุณรู้สึกอยากดึงผมได้ด้วย
5.พักผ่อนน้อย
พฤติกรรมนอนน้อยไม่ได้ส่งผลเสียต่อผิวพรรณของเราเท่านั้นแต่ยังส่งผลต่อสุขภาพผมของเราด้วย เพราะเมื่อเรานอนน้อยร่างกายจะสร้างฮอร์โมน DHT หรือ ฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone) ซึ่งมีส่วนเสี่ยงโรค และทำให้ผมร่วงได้
6.ดูแลผมผิดวิธี
การสระผมแม้จะเป้นการดูแลเส้นผมให้สะอาดอยู่เสมอ แต่หากเราสระผมก่อนเข้านอน หรือผมไม่แห้งแล้วนอน แทนที่จะเป็นผลดี กลับกลายเป็นการทำร้ายสุขภาพเส้นผมทางอ้อม สาเหตุก็เพราะความชื้นบนเส้นผมอาจะทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ ที่ก่อให้เกิดรังแค และหนังศีรษะอักเสบจนทำให้ผมร่วง อีกปัจจัยที่สำคัญคือการสระผมด้วยน้ำอุ่น จะทำให้หนังศีรษะและผมแห้ง อ่อนแอ นอกจากนี้การหวีผม หากเราหวีผมแรงขณะผมเปียก จนทำให้เกิดแรงเสียดสีที่เกิดขึ้น บวกกับแรงดึงผมในขณะที่รากผมอ่อนแอก็จะยิ่งทำให้ผมร่วงง่ายตามไปด้วย
7.พันธุกรรม
หนึ่งสาเหตุที่มักสังเกตได้หากคนในครอบครัวมีประวัติครอบครัวที่มีศีรษะล้าน โดยเกิดขึ้นจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม พบได้มากในหมู่เพศชายเป็นส่วนใหญ่ และอาการผมบางมักเริ่มตั้งแต่อายุระหว่าง 18 เป็นต้นไป
อ้างอิงจาก
- Hair loss: Who gets and causes : https://www.aad.org/public/diseases/hair-loss/causes/18-causes
- Hair Loss – Types of Alopecia & Causes of Thinning Hair : https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/understanding-hair-loss-basics
5 วิธีป้องกันผมร่วง และดูแลให้ผมให้แข็งแรงอยู่เสมอ
ปัญหาผมร่วงแม้เป็นปัญาหาที่แก้ยาก แต่เราสามารถป้องกันเส้นผมของเราให้แข็งแรงหรือค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมเพื่อให้ผมของเขาค่อย ๆ กลับมาสุขภาพดีได้ ด้วยเคล็ดลับการป้องกันผมร่วง และดูแลให้ผมให้แข็งแรงอยู่เสมอดังนี้
1.ดูแลเรื่องอาหารการกิน
โดยเฉพาะอหารที่มีโปรตีนสูง งดหรือหลีกเลี่ยงของทอดหรืออาหารที่มีไขมันสูง ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอาหารที่ผงชูรสเยอะๆ รับประทานวิตามินเยอะ โดยเฉพาะอาหารเสริมผู้หญิงที่มีส่วนช่วยให้ผมแข็งแรง เช่นสารอาหารประเภทวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก โอเมก้า 3 ไบโอติน หรือ คอลลาเจน เป็นต้น
2.ดูแลผมให้ถูกวิธี
อย่างการไม่สระผมก่อนนอน สระผมด้วยน้ำเย็นแทนการสระด้วยน้ำอุ่นเพื่อลดการทำให้ผมแห้ง หลีกเลี่ยงการจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนมากเกินไป และไม่หวีผมแรง ๆ หลังสระผม เพื่อให้ผมของเราแข็งแรงและสุขภาพดีอยู่เสมอ
3.หลีกเลี่ยงสารเคมี
ยิ่งใช้เคมีแรง ๆ บนผมน้อยเท่าไหร ผมก็จะยิ่งสุขภาพแข็งแรงเท่านั้น แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็พยายามเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและทำร้ายผมให้น้อยที่สุด หรือเว้นระยะการทำเพื่อใสห้เส้นผมพักและกลับมาแข็งแรงก่อน
4.หมั่นบำรุงอยู่เสมอ
หมั่นบำรุงด้วยออยล์บำรุงผม ใช้แฮร์โทนิคบำรุงรากผมและหนังศีรษะ หมักผมหรือทำทรีเมนท์ เพื่อให้เส้นผมและหนังศีรษะมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยน หรือหากเป็นคนมีปัญหาผมร่วงง่ายแนะนำให้เลือกแชมพูสูตรป้องกันผมร่วง
5.นวดศีรษะบ่อย ๆ
การนวดหนังศีรษะเบา ๆ ด้วยการใช้ปลายนิ้วมือกดและนวดคลึงให้ทั่วศีรษ นอกจากจะช่วยผ่อนคลาย และลดความเครียดได้แล้ว ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบนหนังศีรษะ ซึ่งช่วยทำให้รากผมและเส้นผมแข็งแรงขึ้นด้วย
อ้างอิงจาก
- How to Prevent Hair Loss in Men and Women : https://www.healthline.com/health/how-to-prevent-hair-loss
- 6 Ways to Stop Hair Loss : https://health.clevelandclinic.org/how-to-stop-hair-loss/
10 อันดับวิตามินบํารุงผม ยี่ห้อไหนดี ? ลดผมร่วง เสริมความแข็งแรงให้กับผม
หลังจากที่เราทราบสาเหตุว่าผมร่วงเกิดจากอะไรและรู้ว่าวิตามินชนิดใดบ้างเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับผมแล้ว คราวนี้ก็มาถึงเวลาเริ่มกินอาหารเสริมเพื่อบำรุงผมให้สวยสุขภาพดีกัน 10 อันดับวิตามินบํารุงที่เราคัดสรรมาให้นั้นรับรองกินแล้วผมของทุกคนจะสวย เงางาม ราวกับทำทรีทเมนท์มาเลยทีเดียว
1.Natrol Biotin
วิตามินเจ้าดังนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเป็นวิตามินที่มาในรูปแบบเม็ด ดูดซึมง่าย รสสตอเบอรี่ ภายในหนึ่งเม็ด ประกอบด้วยไบโอติน 10,000 mcg ช่วยบำรุงเส้นผม ผิวหนัว และเล็บ ให้แข็งแรงอยู่เสมอ ใครมีปัญหาผมร่วงบ่อย เล็บเปราะ ต้องไม่พลาดที่จะลอง ที่สำคัญยังมั่นใจได้เลยในเรื่องของคุณภาพเพราะได้รับการรับรองมาตรฐาน NPA และ GMP จากประเทศสหรัฐอเมริกา
ขนาด : 60 เม็ด
ราคา : 325 บาท
เว็บไซต์ : https://www.natrol.com/store/biotin
2.Nature’s Bounty Gummy
วิตามินบำรุงผม ผิว เล็บในรูปแบบกัมมี่แสนอร่อยและรับประทานสะดวก มีไบโอติน 5,000 mcg มีให้เลือกหลากรส หลายสูตรเช่น สูตร ไบโอตินผสมคอลลาเจน สูตรไบโอติน x2 เป็นต้น โดยตัวนี้ช่วยให้ผมเงางามขึ้น รักษาสุขภาพเส้นผมและรากผมให้แข็งแรง ลดอาการผมขาดหลุดร่วงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีวิตสมินอีที่ส่วนสำคัญในการดูแลผิวพรรณ ให้ชุ่นชื้น แลดูกระจ่างใสได้ด้วย เรียกได้ว่ากินเม็ดเดียวบำรุงได้ครบสูตร
ขนาด : 80 เม็ด
ราคา : 395 บาท
3.DHC Biotin
แบรนด์วิตามินตัวดังจากประเทศญี่ปุ่น ที่นอกจากจะมีไบโอติน 500 mcg ช่วยบำรุงผม ลดอาการผมร่วง แล้วยังมีวิตามินบี 7 ช่วยบำรุงเส้นผม และชะลอการเกิดผมหงอก บรรเทาอาการเล็บฉีกขาดง่าย เล็บเปราะ แบรนด์นี้ยังมีความพิเศษตรงที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตไบโอตินแบบใหม่ ทำให้ละลายช้าและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ไวและมากขึ้น
ขนาด : 30 เม็ด
ราคา : 230 บาท
เว็บไซต์ : https://www.jpanaddict.com/product/dhc-biotin-30-days/
4.Swanson Biotin
วิตามินบำรุงผมที่มีส่วนในการฟื้นฟูเส้นผม รวมไปถึงอวัยวะต่างๆในร่างกายด้วยไบโอติน 5,000 mcg ที่มีโมเลกุลเล็ก รับประทานง่าย นขอกจากนี้ยังมีวิตามิน B complex ช่วยบำรุงเซลล์ประสาท กระตุ้นให้รากผมแข็งแรงขึ้นและฟื้นฟูให้กลับมามีสุขภาพดี ใครที่มีปัญหาผมร่วงบ่อย ๆ ต้องลองเลยค่ะ
ขนาด : 100 เม็ด
ราคา : 277 บาท
เว็บไซต์ : https://www.swansonvitamins.com/p/swanson-premium-biotin-5-mg-100-caps
5.Puritan’s Pride Biotin
วิตามินเจ้าดังจากประเทศอเมริกาที่ขายมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี มาในรูปแบบเม็ดซอฟเจลที่เข้ข้นแต่ละลายง่าย พร้อทดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในหนึ่งเม็ดก็อัดแน่นไปด้วยไบโอติน 5,000 mcg พร้อมบำรุงและส่งเสริมสุขภาพผิว ผมและเล็บเพื่อให้คุณดูดีอยู่เสมอ
ขนาด : 100 เม็ด
ราคา : 216 บาท
เว็บไซต์ : https://www.puritan.com/biotin-421
6.Swisse Ultiboost Hair Skin Nails
วิตามินบำรุง ผม และเล็บที่นอกจะมีไบโอตินเสริมความแข็งแรงแล้วยังมีคอลลาเจนและสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการบำรุงเส้นผม เล็บและผิวพรรณด้วย เพียงรับประทานวันละหนึ่งเม็ดก็บำรุงได้ครบตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า ช่วลดอาการผิวแห้ง ลดการเกิดรังแค พร้อมเผยเส้นผมเงางามกว่าที่เคย
ขนาด : 100 เม็ด
ราคา : 799 บาท
เว็บไซต์ : https://swisse.com.au/swisse-beauty-hair-skin-nails
7.DHT Blocker Hair Formula by piping rock
ชวิตามินจากสารสกัดสมุนไพรธรรมชาติ 100% ช่วยเพิ่มเส้นให้ดูหนาฟูมากยิ่งขึ้น กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม รวมไปถึงช่วยบำรงผิวพรรมและเล็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกหนึ่งจุดเด่นของแบรนด์นี้เลยก็คือลดอาการผมร่วงโดยมีสารที่ช่วยลดการผลิต DHT (dihydrotestosterone) ฮอร์โมนที่ทำให้ผมร่วงด้วย ใครที่มีปัญหากวนใจผมบางผมร่วงบ่อย ๆ เพราะฮอร์โมน ถือว่าตัวนี้เป็นตัวชเลือกที่น่าจสนใจไม่น้อย
ขนาด : 60 เม็ด
ราคา : 799 บาท
เว็บไซต์ : https://www.pipingrock.com/?rwcode=JPK765
8.Mega We Care Regenez
วิตามินแบรนด์ดังที่พูดชื่อแล้วใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก เพราะมีวิตามินหลากหลายที่จำเป็นต่อร่างกายหลากหลายสรรพคุณให้เลือกซื้อ ซึ่งสำหรับแบรนด์นี้ก้มีโปรดักส์ที่ออกมาเพื่อบำรุงเส้นผมโดยเฉพาะ มีสารอาหารอาหารบำรุงเส้นผมและเล็บที่ครบถ้วนและปริมาณสูง อาทิไบโอติน สังกะสี, ฮอลเทลสกัด, วิตามิน B,B5,B6, วิตามิน C, ธาตุเหล็ก, ทองแดง ที่เป็นอาหารสำคัญช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและดูดีอยู่เสมอ
ขนาด : 30 เม็ด
ราคา : 395 บาท
เว็บไซต์ : https://www.megawecare.co.th/en/product/13708-12441/regenez
9.Blackmores Biotin H+
วิตามินเจ้าดังจากฝั่งประเทศออสเตรเลีย ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่จากแบล็คมอร์ส สกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ฮอสเทล ชาขาว มิลเลท เป็นต้น เสริมคุณค่าด้วยวิตามินที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงตั้งแต่โคน จรดปลาย ใครที่มีปัญหาผมแห้งเสีย แตกปลาย และไร้น้ำหนัก ตัวนี้รับรองช่วยบำรุงได้ผลแน่นอน
ขนาด : 60 เม็ด
ราคา : 628 บาท
เว็บไซต์ : https://www.blackmores.co.th
10.Biotin Zinc คณะเภสัช จุฬา
ไบโอตินรูปแบบเม็ดผลิตโดยคนไทยที่มีส่วนผสมของไบโอตินและซิงค์ เป็นหลัก ช่วยในการป้องกันผมหงอกก่อนวัย ปัญหาผมบาง ร่วง ศรีษะล้าน รวมไปถึงบำรุงเล็บ นอกจากนี้ด้วยประโยชน์ของซิงค์ยังมีส่วนช่วยบำรุงในด้านอื่น ๆ ด้วยอาทิ เสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับร่างกาย การผลิตโปรตีนและคอลลาเจน บรรเทาอาการอักเสบของสิว ดูแลผิวพรรณให้สวยงาม เป็นต้น
ขนาด : 90 เม็ด
ราคา : 355 บาท
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Biotin-Zinc-คณะเภสัช-จุฬา-ไบโอติน-ซิงค์-สังกะสี-108223917237582/
เป็นยังไงกันบ้างคะกับความความรู้ เคล็ดลับและ 10 อันดับ วิตามินบํารุงผมยี่ห้อไหนดี ที่เราเอามาฝากกัน หวังว่าจะมีประโยชน์และช่วยให้ทุกคนมีสุภาพผมที่แข็งแรง และเงางามอยู่เสมอ ซึ่งถ้าหากเราเริ่มต้นดูแลเส้นผมตั้งแต่วันนี้ โอกาสที่ผมของเราจะบางหรือล้านก็จะน้อยลง เรียกได้ว่าดูแลไว้ก่อน ดีกว่าสายเกินแก้นั่นเอง นอกจากนี้อย่าลืมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มเติม รวมไปถึงเลือกทรงผมของคนผมบางเพื่อช่วยให้ผมของเราดูหนาขึ้นร่วมได้ด้วย